มันเริ่มต้นที่ความอยาก…
ผ่านมาไม่เท่าไหร่ อายุก็ปาเข้าไปสามสิบสี่ รู้อยู่แก่ใจว่าตอนอายุสามสิบยังรับไม่ค่อยได้เลย เผลอชะแว้บเดียวมันเล่นบวกเข้าไปอีกสี่ปีแล้ว…เค้าว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข แต่ความจริงมันคือตัวเลขที่ทำให้เรารู้สึกสลดได้ง่ายๆเลยต่างหาก ก็พอคนเราอายุมากขึ้น ความเป็นผู้ใหญ่มันก็มากลบหัวใจเด็กของเรา ยิ้มยากขึ้น คิดมากขึ้น เรียนรู้ที่จะทุกข์ได้เร็วขึ้น…แถมผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะจมปลักกับเจ้าตัวทุกข์นานๆซะอีก
มานั่งนึกๆดู มีอะไรบ้างในชีวิตที่ชอบทำ เวลาอยู่คนเดียว ชอบอ่านหนังสือหรือดู dvd เวลาอยู่กับเพื่อน ชอบได้นั่งโม้ ก่อเรื่องราวร่วมกัน ชอบหัวเราะอ้าปากกว้างๆ ชอบไปเที่ยว…แต่ว่าได้ไปแค่ปีละ 2-3 ครั้งเอง เวลาไปเที่ยวเหมือนได้เดินออกจากกะลาใบเดิมที่คุ้นเคย ได้ยิ้ม ได้หัวเราะสมใจอยาก ได้เจอเรื่องราวที่ไม่ได้คาดคิดเสมอๆ…แล้วพอวันหนึ่งมานั่งนึกถึงวันเก่าๆ ก็พบว่าเราจำมันไม่ได้แล้ว สุดแสนจะเสียดาย ความทรงจำมันหลอๆ เว้าๆ แหว่งๆ ไปหมด จำได้แค่ภาพลางรวมๆ หนังสือหรือหนังที่ชอบ เราลืมมัน เราก็หยิบมาดูใหม่ได้ แต่เรื่องราวในชีวิตไม่เหมือนกัน ชีวิตมันไม่มี re-run มัน re-start ใหม่ไม่ได้
บางอย่างที่ฟลุ้คเขียนเอาไว้ได้ พอกลับมานั่งอ่าน แทบจะมองเห็นภาพในตอนนั้นผุดขึ้นมาเลย ตัวหนังสือของเรา ทำให้ตัวเองปะติดปะต่อความทรงจำได้อย่างลื่นไหล ทำไมเราถึงได้ไม่พยายามเก็บมันเอาไว้นะ ถ้าเขียนเก็บทุกครั้ง มันคงจะช่วยได้มาก ตอนนี้อยากลองเขียนดู เคยอ่านเจอว่า ถ้าเราอยากวิ่งแต่ไม่รู้จุดหมาย แล้วเราจะวิ่งได้มั้ย เราแค่ต้องเริ่มจากการก้าวขาออกมาแค่นั้นเอง การเขียนก็ไม่น่าจะแตกต่าง แค่มีมือ อ่านออกเขียนได้มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว…ส่วนเรื่องโม้ ก็เป็น package ติดตัวมาตั้งแต่จำความได้…
ต่อไปนี้เราว่าจะเริ่มออกวิ่งแล้วล่ะ วิ่งสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ ยังไม่มีจุดหมายหรอกนะ รู้แต่ว่า เราจะแวะเก็บเรื่องราวสารพันต่างๆนานาที่อยู่ระหว่างทางไปด้วย ถึงมันจะเล็กๆน้อยๆ เราจะพยายามไม่ให้มันหลุดมือไปอีก หวังว่าวันหนึ่งเมื่อคิดได้ว่าจุดหมายในชีวิตคืออะไร แล้วมีโอกาสวิ่งไปถึง เราจะมีเรื่องราวเหล่านี้ไว้หล่อเลี้ยง ให้ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ทำให้หัวใจภาคที่เป็นเด็กยังคงอยู่กับเราตลอดไป ก็ตอนที่เป็นเด็กน่ะ…เรามองเห็นโลกด้านที่สวยงามก่อนเสมอ ยิ้มง่าย เวลาร้องไห้ก็ลืมง่าย เผลอแป๊บเดียวก็หัวเราะได้แล้ว…
Happy blog's birthday ขอให้ใครที่แวะเข้ามา ได้มีรอยยิ้มกลับออกไป... ^_^
it’s me…
a kero in the coconut shell
ผ่านมาไม่เท่าไหร่ อายุก็ปาเข้าไปสามสิบสี่ รู้อยู่แก่ใจว่าตอนอายุสามสิบยังรับไม่ค่อยได้เลย เผลอชะแว้บเดียวมันเล่นบวกเข้าไปอีกสี่ปีแล้ว…เค้าว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข แต่ความจริงมันคือตัวเลขที่ทำให้เรารู้สึกสลดได้ง่ายๆเลยต่างหาก ก็พอคนเราอายุมากขึ้น ความเป็นผู้ใหญ่มันก็มากลบหัวใจเด็กของเรา ยิ้มยากขึ้น คิดมากขึ้น เรียนรู้ที่จะทุกข์ได้เร็วขึ้น…แถมผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะจมปลักกับเจ้าตัวทุกข์นานๆซะอีก
มานั่งนึกๆดู มีอะไรบ้างในชีวิตที่ชอบทำ เวลาอยู่คนเดียว ชอบอ่านหนังสือหรือดู dvd เวลาอยู่กับเพื่อน ชอบได้นั่งโม้ ก่อเรื่องราวร่วมกัน ชอบหัวเราะอ้าปากกว้างๆ ชอบไปเที่ยว…แต่ว่าได้ไปแค่ปีละ 2-3 ครั้งเอง เวลาไปเที่ยวเหมือนได้เดินออกจากกะลาใบเดิมที่คุ้นเคย ได้ยิ้ม ได้หัวเราะสมใจอยาก ได้เจอเรื่องราวที่ไม่ได้คาดคิดเสมอๆ…แล้วพอวันหนึ่งมานั่งนึกถึงวันเก่าๆ ก็พบว่าเราจำมันไม่ได้แล้ว สุดแสนจะเสียดาย ความทรงจำมันหลอๆ เว้าๆ แหว่งๆ ไปหมด จำได้แค่ภาพลางรวมๆ หนังสือหรือหนังที่ชอบ เราลืมมัน เราก็หยิบมาดูใหม่ได้ แต่เรื่องราวในชีวิตไม่เหมือนกัน ชีวิตมันไม่มี re-run มัน re-start ใหม่ไม่ได้
บางอย่างที่ฟลุ้คเขียนเอาไว้ได้ พอกลับมานั่งอ่าน แทบจะมองเห็นภาพในตอนนั้นผุดขึ้นมาเลย ตัวหนังสือของเรา ทำให้ตัวเองปะติดปะต่อความทรงจำได้อย่างลื่นไหล ทำไมเราถึงได้ไม่พยายามเก็บมันเอาไว้นะ ถ้าเขียนเก็บทุกครั้ง มันคงจะช่วยได้มาก ตอนนี้อยากลองเขียนดู เคยอ่านเจอว่า ถ้าเราอยากวิ่งแต่ไม่รู้จุดหมาย แล้วเราจะวิ่งได้มั้ย เราแค่ต้องเริ่มจากการก้าวขาออกมาแค่นั้นเอง การเขียนก็ไม่น่าจะแตกต่าง แค่มีมือ อ่านออกเขียนได้มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว…ส่วนเรื่องโม้ ก็เป็น package ติดตัวมาตั้งแต่จำความได้…
ต่อไปนี้เราว่าจะเริ่มออกวิ่งแล้วล่ะ วิ่งสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ ยังไม่มีจุดหมายหรอกนะ รู้แต่ว่า เราจะแวะเก็บเรื่องราวสารพันต่างๆนานาที่อยู่ระหว่างทางไปด้วย ถึงมันจะเล็กๆน้อยๆ เราจะพยายามไม่ให้มันหลุดมือไปอีก หวังว่าวันหนึ่งเมื่อคิดได้ว่าจุดหมายในชีวิตคืออะไร แล้วมีโอกาสวิ่งไปถึง เราจะมีเรื่องราวเหล่านี้ไว้หล่อเลี้ยง ให้ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ทำให้หัวใจภาคที่เป็นเด็กยังคงอยู่กับเราตลอดไป ก็ตอนที่เป็นเด็กน่ะ…เรามองเห็นโลกด้านที่สวยงามก่อนเสมอ ยิ้มง่าย เวลาร้องไห้ก็ลืมง่าย เผลอแป๊บเดียวก็หัวเราะได้แล้ว…
Happy blog's birthday ขอให้ใครที่แวะเข้ามา ได้มีรอยยิ้มกลับออกไป... ^_^
it’s me…
a kero in the coconut shell
happy birth day นะเพื่อน ไข่นุ้ย ^_^
ตอบลบ