วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาคต่อของกลอนสั้น...ไร้สัมผัส สรรหาสาระอะไรก็ไม่ได้ (กรุณาอย่าจริงจัง)


จากเมื่อวาน ถึงวันนี้ มีภาคต่อ             มีคนรอ ตามดู กลอนหนูเขียน
ถึงจะบอก ออกตัว กลอนมันเกรียน       จงพากเพียร เขียนมาเถอะ กูอยากดู    

อันน้ำท่วม ถ้วนหน้า มาหนาหนัก         บ้างชะงัก จระเข้ มาจากไหน
หนูว่ายน้ำ อยู่ดีดี มาทำไม                 หรือสงสัย อยากรู้ ดูหน้าคน

พี่บอกว่า ไอ้เข้ อ๋อ..มันหลุด              แล้วยังพูด บอกให้ อย่าฉงน
อันไอ้เข้ ที่เห็น มันกลัวคน                 พอได้ยล หน้ามน เดี๋ยวก็ไป

ที่เห็นนี้ มันมี ไอ้เข้เลี้ยง                    ถ้าให้เรียง ไม่เยอะ พอนับไหว
แต่เพิ่งรู้ หลุดมาเพิ่ม ไอ้เข้ใคร            นับไม่ได้ แต่ไม่เยอะ แค่ร้อยฟาร์ม

พี่ออกมา บอกจริงจัง ให้สัมภาษณ์      ดูองอาจ ผึ่งผาย กระจายเสียง
พี่ไม่หลอก หนูรู้ ไม่เอนเอียง              พี่ยอมเสี่ยง หนูนับถือ พี่เก่งจัง

บางคนเจอ จระเข้ บ้างว่าเหี้ย              หนูไม่เคลียร์ แยกไม่ออก บอกได้ไหม
ตัวไหนเข้ ตัวไหนเหี้ย ใครเป็นใคร        พอรู้ไป ได้ชี้หน้า ว่าถูกตัว

อีกนิดหน่อย ขอพี่ จะได้มั้ย                เผื่อเอาไว้ เฉยเฉย ไม่เคยหลบ
ขอยาทา กันมันกัด ไว้ประคบ              โดนตะปบ เมื่อไหร่ จะได้ทา

มีอะไร อีกหนา นึกถึงพี่                    สิ่งดีดี พี่มอบมา พาสุขสันต์
ก็พวกเรา ออกจะรัก จะผูกพัน             ใครพากัน ว่าพี่ หนูไม่ฟัง

แล้วอีกยัง เค้าโจมตี บ้านนายก            ดูตลก มีบิ๊กแบ็ค วางกองใหญ่
หนูไม่เชื่อ เค้าหรอก นายกไทย           กลัวได้ไง ก็ เอาอยู่ รู้ทุกที

พี่บอกว่า บิ๊กแบ็ค วางสลอน               ไม่สั่นคลอน น้ำชะลอ กันน้ำไหล
พี่บอกว่า เรียบร้อยแล้ว ทั้งแถวไง        แล้วทำไม กทม. มันบอกยัง

แล้วนักข่าว ยังตาม ไปเช็คพี่              ตรงพื้นที่ เกิดเหตุ เป็นแนวใหญ่
นักข่าวบอก ไม่เสร็จนะ อีกตั้งไกล        ยังไม่ใกล้ กับคำ ว่าเสร็จเลย

นายกบอก เข้มแข็งนะ ไม่ร้องหรอก      โถพวกหอก ถ่ายหลังหาว กระทันหัน
น้ำตาไหล ออกมา เช็ดไม่ทัน              แล้วพวกมัน ก็มาว่า ท่านงอแง

แล้วยังล้อ งูน่ากลัว งู จัง โป้             โถพวกโง่ คนฉลาด มองไม่เห็น
จะแยกแยะ โง่-ฉลาด ยังไม่เป็น           ทำมาเล่น ผวนคำ ย้ำเยาะเรา                     

ถึงปิดฟ้า ด้วยมือ จะไม่มิด                 แต่หนูคิด ปิดตา หนูทั้งสอง
อะไรร้าย ไม่ดี หนูไม่มอง                  คนทั้งผอง ว่าพี่ หนูเกลียดมัน

เอ๊ะรึว่า จะฟังหู ไว้อีกหู                     เพราะดูดู ก็งงงง น่าสงสัย
หนูเชื่อพี่ แต่เกาหัว ทุกทีไป               เชื่อด้วยใจ เหตุผลไม่ สอดคล้องเลย

ครูบอกว่า ฟังใคร ก็ต้องคิด                จะถูกผิด เราแยกได้ เรียนหนังสือ
ใครบอกนก เป็นไม้ เราอออือ            ก็เสียชื่อ เราหมด เกิดเป็นคน

หนูขอเชื่อ ครูนิดหนึ่ง ได้มั้ยคะ           พวกพี่จะ ว่ามั้ย ขอสักหน
พี่ที่รัก หนูขอให้ พี่อดทน                  แล้วฝึกฝน ฝึกตน เป็นคนดี

ชีวิตนี้ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์            ปฏิบัติ ตั้งใจทำ อย่าสับสน
เป็นแบบอย่าง ที่ดีให้ เด็กทุกคน          ฟ้าจะดล ชาติไทย เราไชโย...


เขียนมั่วๆ ขึ้นมาอีกแล้ว...โดยหนูเอง...
ยิ่งเลอะเทะ ชินซะทีสิวะ...

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กลอนสั้น ไร้สัมผัส...By อิชั้นเอง...(ไว้อาลัยน้ำท่วม)

หนูนั่งคิด งงงง อะไรนี่                      ประเทศนี้ น้ำท่วม ทุกแห่งหน
ประชาชี เดือดร้อน แทบทุกคน            จะรวยจน เจอผล อุทกภัย

รัฐบาล ตั้งหน่วย คอยช่วยเหลือ           ไว้จุนเจือ ศปภ. รู้ใช่ไหม
เพราะมีเค้า พวกเรา ได้อุ่นใจ              เค้าอยู่ไหน อีกเดี๋ยวเดียว น้ำเชี่ยวมา

ข่าวล่าสุด พี่อยาก มาไบเทค              บางนาเลค อย่าเลย ไม่อยากได้
บ้านหนูอยู่ ละแวกนี้ ห่างไม่ไกล           หนูปลอดภัย ดีแล้ว อย่าย้ายมา

เค้าเล่าว่า พี่ตุนของ บริจาค                มันเยอะมาก ใจร้าย ทำลงหรือ
คนพวกนั้น เค้ายังว่า พี่พลิกมือ            แล้วใส่ชื่อ ‘You know who’ แปะลงไป

ของบริจาค พวกหนู ตั้งเยอะแยะ          พี่จะแกะ จะทำ ยังไงไหว
อีกทั้งพี่ ต้องขน ขึ้นรถใคร                 เหี้ยเกินไป๊ หนูว่า พี่ไม่ทำ

พี่คิดใหม่ พยายาม วางบิ๊กแบ็ค            เอาไปแทรก ชะลอ กั้นน้ำไหล
พอทำเสร็จ พี่บอก ภาคภูมิใจ              แล้วยังไง กทม. รอดูมัน

กทม. ก็บอก รัฐบาล                         การจัดการ บิ๊กแบ็ค ได้ผลมั้ย
พี่ไม่ช้า ตอบมา ในทันใด                  สูบน้ำไป เร็วซิวะ ไอ้เด็กเกรียน

หนูก็คอย เฝ้าดู พวกพี่เจ๋ง                 ส่วนคนเจ๊ง พวกหนู ไงล่ะพี่
พี่บอก อยากให้รัก สามัคคี                 พวกพี่ดี ทำให้ดู หนูได้เลียน

แต่พี่สอน ดีนะ หนูขอบอก                 พอคิดออก ถึงรู้ ว่าริบหรี่
ถ้าไม่รู้ ไม่รัก สามัคคี                       ประเทศนี้ เจ๊งแน่ เพราะพี่นำ

นายกบอก น้ำท่วม กันไม่ยาก             กันน้ำหลาก หญ้าแพรก คอยช่วยได้
ปลูกหญ้าแพรก จะแทรกตัว กั้นน้ำไว้     น้ำจะไหล ค่อยค่อย ชะลอลง

หนูฟังแล้ว ยังงงงง สงสัยอยู่              ที่เคยรู้ เคยได้ใช้ ไหว้ครูนี่
หญ้าต้นเล็ก เบรคน้ำ ยังไงดี               เฉลยที่ อ๋อพูดผิด คิดไปเอง

ฟังฟังไป ก็ได้ แต่เกาหัว                   หนูนึกกลัว วันข้างหน้า มาไม้ไหน
พี่ยิ่งทำ หนูยิ่งรู้ หนูห่วงใย                 หนูจะร้อง เพลงชาติไทย ให้ใครฟัง


(ไว้วันหลัง มีเวลา มาแต่งต่อ             วันนี้ขอ แค่นี้ พอขำขัน
หนูอยากแต่ง สรรเสริญพี่ แทบทุกวัน    พี่แบ่งปัน หนูประทับ จับจิตใจ)...





เขียนมั่วๆ ขึ้นมาโดย...หนูเอง...
ยิ่งเยอะ ยิ่งเลอะเทะ...

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เหตุเกิดในรถ Taxi

          เมื่อวานได้นั่งรถ taxi คุณลุงแก่ๆคนหนึ่ง จากแบริ่งไปโลตัสศรีนครินทร์ พอบอกจุดหมายและขึ้นรถแล้ว แกก็ถามเราว่าจะไปทางไหน เราบอกไปศรีนครินทร์ก็ได้ แกก็บอกว่าทางนั้นรถติดนะ ไปทางด่วนมั้ย ตอนนี้ไม่เสียตังค์ (เพราะเป็นช่วงน้ำท่วม) เราก็เลยเออออไป แกเล่าให้ฟังว่า บางทีรถติดๆ แต่มิเตอร์มันก็ขึ้นเรื่อยๆ แกเกรงใจผู้โดยสาร เราบอกว่า ทุกคนที่นั่ง taxi เค้าก็ต้องทำใจยอมรับอะไรตรงนี้ได้อยู่แล้ว ถ้าแกพูดจริงเราก็งงจริง ว่าทำไมแกต้องเกรงใจด้วย แกบอกว่าเหมือนแกเลือกพาเค้าไปทางที่ไม่ดี

          ลุงคนนี้ก็เหมือน taxi ส่วนใหญ่ ที่ชวนคุยไปเรื่อย แต่มันมีบางอย่างพิเศษที่น่าประทับอยู่ในใจมากกว่า เหมือนซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วแถมลูกชิ้นเพิ่มให้ฟรี เลยรู้สึกชอบใจ พูดเรื่องน้ำท่วม แกบอกว่าเวลาของคนที่น้ำท่วมนี่ยาวนานกว่าของเรานะ 1 วันของเค้านี่ กว่ามันจะผ่านพ้นไป คงนานกว่าเราเยอะ อาจนานเป็นอาทิตย์ของเราเลย เค้าน่าสงสารกว่าเรามากนะ ดูแกเป็นคนใจดีจริงๆ

          แกบอกว่าแกได้ยินผู้โดยสารเค้าบอกว่า รถโตโยต้าที่แกขับมันเกรดต่ำ มันจริงมั้ยเหรอ ถ้าเป็นรถฮอนด้า เค้าจะไม่ยอมให้เอามาทำ taxi เลย เราพูดบอกแกว่า ก็จริงอยู่ที่รถฮอนด้าเค้ามีนโยบายนั้น แต่เรื่องเกรดรถนี่ไม่น่าจะเกี่ยวหรอกค่ะ เค้าก็ผลิตแข่งกันเป็นรุ่นๆ ฮอนด้ามีแอ็คคอร์ด โตโยต้าก็มีแคมรี่ ซีวิคก็แข่งกับอัลติส ซิตี้ก็แข่งกับวีออส มันอยู่ที่ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ ชอบแบบไหน ไม่ใช่ว่าโตโยต้าจะต่ำกว่าฮอนด้าหรอกนะคะ คนในสังคมนี้มันก็ประหลาดนะ ชอบตัดสินอะไรกันที่การแบ่งชนชั้น วรรณะ ไอ้นี่ต่ำ ไอ้นั่นสูง ลุงอย่าไปสนใจเลยค่ะ แก่แล้วทำบุญดีกว่านะคะ 

          แกก็เลยพูดกับเราเรื่องธรรมะ สิ่งที่เราเคยรู้ตอนเด็ก แล้วก็ลืมมันเข้าหลืบไหนไปแล้วก็ไม่รู้ แกบอกว่า ชีวิตนะครับ เค้าถึงว่าสี่คนหาม สามคนแห่ คนหนึ่งนั่งแคร่ สองคนพาไป สี่คนหามก็คือธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ประกอบกันเป็นตัวเรา สามคนแห่คือโลภ โกรธ หลง ที่คอยพาทำให้เราเขว ทำให้จิตใจเราตกต่ำ หนึ่งคนที่นั่งแคร่ก็คือจิตของเรา สองคนพาไปก็คือบุญและบาป สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนแท้นะครับ ไม่ทอดทิ้งเราแน่นอน เราไปไหนเค้าก็ไปด้วย ตามเราไปทุกที่ ตอนตายแล้วยังอยู่กับเราเลย นี่ไม่ได้เขียนให้รู้สึกดีนะ แต่ตอนที่ฟังก็อึ้งๆ แล้วก็รู้สึกดีจริงๆ

          รู้สึกว่าชอบฟัง แต่รถดันมาถึงที่หมายแล้ว ฟังแกพูดไม่ยักกะเบื่อแฮะ ต้องลงแล้ว ราคาก็ถูกกว่าอีกทางจริงๆด้วย หมายความว่าแกไม่ได้หลอกเรา ให้ตังค์แกเกินๆไป แล้วก็บอกขอบคุณมาก รู้สึกว่าบางที ปราชญ์เนี่ยเค้าก็ชอบปลอมตัวมาอยู่ตามที่ต่างๆนะ เป็นคนง่ายๆ ให้เรามีโอกาสได้บังเอิญเจอ ได้พูดคุย ได้ฉุกคิด ที่สำคัญถ้าฟังแล้วยังเก็บมาใส่ใจล่ะก็ มันก็จะเป็นผลดีกับชีวิตเอาได้ง่ายๆเลย ถ้าคนเรามีธรรมะในใจจริงกันเยอะๆ สังคมมันคงไม่วุ่นวายอย่างนี้

          ว่าแล้วก็ส่องกระจกดูตัวเราดีกว่า ว่า สองคนพาไปของเรา เราสนิทกับบุญหรือบาปมากกว่ากัน...



 
It's me...
คนที่พยายามถีบบาปออกไป...จะมาทำตัวสนิทสนมอะไรนักหนาวะ...