วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เหตุเกิดในรถ Taxi

          เมื่อวานได้นั่งรถ taxi คุณลุงแก่ๆคนหนึ่ง จากแบริ่งไปโลตัสศรีนครินทร์ พอบอกจุดหมายและขึ้นรถแล้ว แกก็ถามเราว่าจะไปทางไหน เราบอกไปศรีนครินทร์ก็ได้ แกก็บอกว่าทางนั้นรถติดนะ ไปทางด่วนมั้ย ตอนนี้ไม่เสียตังค์ (เพราะเป็นช่วงน้ำท่วม) เราก็เลยเออออไป แกเล่าให้ฟังว่า บางทีรถติดๆ แต่มิเตอร์มันก็ขึ้นเรื่อยๆ แกเกรงใจผู้โดยสาร เราบอกว่า ทุกคนที่นั่ง taxi เค้าก็ต้องทำใจยอมรับอะไรตรงนี้ได้อยู่แล้ว ถ้าแกพูดจริงเราก็งงจริง ว่าทำไมแกต้องเกรงใจด้วย แกบอกว่าเหมือนแกเลือกพาเค้าไปทางที่ไม่ดี

          ลุงคนนี้ก็เหมือน taxi ส่วนใหญ่ ที่ชวนคุยไปเรื่อย แต่มันมีบางอย่างพิเศษที่น่าประทับอยู่ในใจมากกว่า เหมือนซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วแถมลูกชิ้นเพิ่มให้ฟรี เลยรู้สึกชอบใจ พูดเรื่องน้ำท่วม แกบอกว่าเวลาของคนที่น้ำท่วมนี่ยาวนานกว่าของเรานะ 1 วันของเค้านี่ กว่ามันจะผ่านพ้นไป คงนานกว่าเราเยอะ อาจนานเป็นอาทิตย์ของเราเลย เค้าน่าสงสารกว่าเรามากนะ ดูแกเป็นคนใจดีจริงๆ

          แกบอกว่าแกได้ยินผู้โดยสารเค้าบอกว่า รถโตโยต้าที่แกขับมันเกรดต่ำ มันจริงมั้ยเหรอ ถ้าเป็นรถฮอนด้า เค้าจะไม่ยอมให้เอามาทำ taxi เลย เราพูดบอกแกว่า ก็จริงอยู่ที่รถฮอนด้าเค้ามีนโยบายนั้น แต่เรื่องเกรดรถนี่ไม่น่าจะเกี่ยวหรอกค่ะ เค้าก็ผลิตแข่งกันเป็นรุ่นๆ ฮอนด้ามีแอ็คคอร์ด โตโยต้าก็มีแคมรี่ ซีวิคก็แข่งกับอัลติส ซิตี้ก็แข่งกับวีออส มันอยู่ที่ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ ชอบแบบไหน ไม่ใช่ว่าโตโยต้าจะต่ำกว่าฮอนด้าหรอกนะคะ คนในสังคมนี้มันก็ประหลาดนะ ชอบตัดสินอะไรกันที่การแบ่งชนชั้น วรรณะ ไอ้นี่ต่ำ ไอ้นั่นสูง ลุงอย่าไปสนใจเลยค่ะ แก่แล้วทำบุญดีกว่านะคะ 

          แกก็เลยพูดกับเราเรื่องธรรมะ สิ่งที่เราเคยรู้ตอนเด็ก แล้วก็ลืมมันเข้าหลืบไหนไปแล้วก็ไม่รู้ แกบอกว่า ชีวิตนะครับ เค้าถึงว่าสี่คนหาม สามคนแห่ คนหนึ่งนั่งแคร่ สองคนพาไป สี่คนหามก็คือธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ประกอบกันเป็นตัวเรา สามคนแห่คือโลภ โกรธ หลง ที่คอยพาทำให้เราเขว ทำให้จิตใจเราตกต่ำ หนึ่งคนที่นั่งแคร่ก็คือจิตของเรา สองคนพาไปก็คือบุญและบาป สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนแท้นะครับ ไม่ทอดทิ้งเราแน่นอน เราไปไหนเค้าก็ไปด้วย ตามเราไปทุกที่ ตอนตายแล้วยังอยู่กับเราเลย นี่ไม่ได้เขียนให้รู้สึกดีนะ แต่ตอนที่ฟังก็อึ้งๆ แล้วก็รู้สึกดีจริงๆ

          รู้สึกว่าชอบฟัง แต่รถดันมาถึงที่หมายแล้ว ฟังแกพูดไม่ยักกะเบื่อแฮะ ต้องลงแล้ว ราคาก็ถูกกว่าอีกทางจริงๆด้วย หมายความว่าแกไม่ได้หลอกเรา ให้ตังค์แกเกินๆไป แล้วก็บอกขอบคุณมาก รู้สึกว่าบางที ปราชญ์เนี่ยเค้าก็ชอบปลอมตัวมาอยู่ตามที่ต่างๆนะ เป็นคนง่ายๆ ให้เรามีโอกาสได้บังเอิญเจอ ได้พูดคุย ได้ฉุกคิด ที่สำคัญถ้าฟังแล้วยังเก็บมาใส่ใจล่ะก็ มันก็จะเป็นผลดีกับชีวิตเอาได้ง่ายๆเลย ถ้าคนเรามีธรรมะในใจจริงกันเยอะๆ สังคมมันคงไม่วุ่นวายอย่างนี้

          ว่าแล้วก็ส่องกระจกดูตัวเราดีกว่า ว่า สองคนพาไปของเรา เราสนิทกับบุญหรือบาปมากกว่ากัน...



 
It's me...
คนที่พยายามถีบบาปออกไป...จะมาทำตัวสนิทสนมอะไรนักหนาวะ...

1 ความคิดเห็น:

  1. เลิกกิน กุ้งเต้น รึยังหละ บาปนะ กินทั้งๆที่ยังไม่ตาย สงสารมัน เหอๆๆ ^_^
    ขอเอาไปขึ้น สเตตัสหน่อยนะ

    ตอบลบ