มักจะนึกถึงเรื่องนี้ได้ตอนไปดู หนัง สำหรับเรา สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่าง หนึ่งในโรงหนังและมันมักจะเกิดข ึ้นอยู่เสมอก็คือ คนตัวสูงๆมันชอบมานั่งหน้าเรา หัวมันจะโผล่พ้นเก้าอี้ออกมาเป็ นครึ่งวงกลมดำๆ ทำให้จอหนังสี่เหลี่ยมของเราแหว ่งตรงนี้พอดี เราสุดจะสงสัย หลายครั้งหลายหนที่เรานั่งอยู่ก ่อน แล้วแถวข้างหน้าเค้ามาช้า มากันหลายคน เกือบทุกครั้งคนตัวสูงมันจะมานั ่งหน้าเรา ไม่รู้อะไ
รดลใจมัน ล่าสุดโดนสองเรื่องติดคือเรื่อง ยักษ์ กับ 007 แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดเค้า เราก็เลยไปบอกใครให้แก้ไขไม่ได้ ครั้งสุดท้ายนี่ เราถึงกับสแกนทุกหัวในโรงหนัง เรานั่งหลังสุดมองเห็นทุกแถว ปรากฏว่าหัวที่อยู่หน้าเรานี่แห ล่ะสูงที่สุดแล้ว ในบรรดาหัวทั้งหมด ฮึ่ย...
เราก็เลยเห็นจอแบบไม่เต็มจอ ถ้าเป็น eng. soundtrack ก็ต้องเอียงตัวอ่านเอา มันแหว่งไปหน่อยหนึ่งตรงหัวมันพ อดี ซึ่งถ้าจอหนังมันแหว่งแบบนี้มาต ั้งแต่ต้น ทุกคนได้เห็นจุดบกพร่องนี้เหมือ นกับที่เราเห็น ก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อย เพราะทุกคนคงจะรู้สึกตะหงิดเท่า ๆกัน คืออยากมีความสุขบนความทุกข์ของ ชาวบ้านบ้าง แต่ความเป็นจริงมันตรงกันข้าม มีแต่เราและฮ็อบบิตด้วยกันเท่าน ั้นแหล่ะที่รู้สึกอย่างงี้ และหัวเราก็ไม่เคยโผล่พ้นเก้าอี ้ไปแก้แค้นใครได้เลยด้วย ใช่สิ...บางคนคงนึกว่า มันมีด้วยเหรอวะ ปัญหาแบบนี้เนี่ย...
อยู่ๆปมน้อยในใจมันก็เริ่มคลายอ อกมาเพื่อเคลียร์ตัวเอง มีอะไรบ้างวะ ที่เราเสียเปรียบเพราะเกิดมาเตี ้ยตะแมะแคะ เราชอบโดนล้อ อันนี้โดนจนชิน ไม่เจ็บนะ...แต่จำ...
บางคนถามส่วนสูงเรา “เฮ้ยๆ...เตี้ยเท่าไหร่เหรอ”
พี่ชายและน้องชายชอบล้อว่า “เตี้ยหมาตื่นฯ” เวอร์ชั่นเต็มคือ “เตี้ยหมาตื่น กลางคืนหมาหอน เตี้ยไม่นอน หมาหอนตลอดคืน” แหม...สนุกจริงๆ (หมายถึงพวกมันนะ)
บางคนถามว่า “อากาศข้างล่างเป็นไงบ้างวะ หายใจสะดวกเหมือนข้างบนมั้ย”
บางคนเล่นแรง “ไปสอยมะเขือให้หน่อย อย่าลืมเอาเก้าอี้ไปรองนะ” เวร...
เวลาเล่นกัน บางครั้งจะโดนเพื่อนหรือน้องชาย ล็อคหัวไว้ คือเอาอุ้งมือจับหัวเรา ยืดออกไปให้สุดแขนมัน เราก็จะสู้ไม่ได้เพราะแขนขาเราส ั้นกว่า ถ้าเราดิ้นรน จะเป็นที่สนุกสนานมาก...
ตอนอยู่ในมหาลัย ก็จะไม่ค่อยโดนล้อแล้ว อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณการเอาตัว รอดดี รีบหาปมด้อยคนอื่นมาล้อก่อน เรื่องความเตี้ยของเราก็เลยตกเป ็นประเด็นรองไป ใครเค้าล้ออะไรกันก็รีบชงรีบยิง ไปที่คนอื่น อย่าให้มันเหลือเวลามาฆ่าเรา หากินบนความทุกข์ของคนอื่นมาโดย ตลอด บางคนหนาวตลอดเลย "ฟันออกปาก" แต่แข็งแรง "ฟันแทงไม่เข้า" บางคนร่างกายกำยำ ยากจะจำแนกด้วยสายตาว่าเป็นผู้ช ายหรือผู้หญิง แต่บัตรประชาชนบอกว่ามันเป็นนาง สาว พวกเราก็ต้องเชื่อเอาตามนั้น บางคนอ้วนเกินร้อยกิโล ทั้งที่เคยผอมและรูปหล่อใช้ได้ต อนมัธยม (ที่พวกเรายังไม่เจอมัน) บางคนมีเรื่องโกหกพกลมเลวร้ายมา กมาย ที่ไม่มีใครรู้นอกจากพวกเราที่เ ป็นเพื่อน บางคนทำตัวไร้สาระอย่างจริงจัง บางคนจีบสาวไม่เจียม สารพัดเรื่องมากมายที่จะล้อเลีย นหรือกลั่นแกล้งกัน มันก็เลยไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่อง หลักที่จะมาล้อเรื่องความกระทัด รัดของเรา เพราะปมอื่นมันน่าสนใจกว่ามาก
เราจะโดนแขวะบ้างก็เวลาที่จะหยิ บอะไรสูงๆแล้วหยิบไม่ถึง ต้องให้เพื่อนช่วย หรือเวลาที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ หรือยืนหลังเพื่อนตัวสูงๆแล้วคน อื่นมองไม่เห็น ก็เรามันตัวเล็กกระจิ๊ดริด เพื่อนทุกคนก็ตัวใหญ่กว่าเราหมด บางคนนี่สูงเกือบ 190 เซ็นเลยนะ เราก็ไม่เข้าใจว่ามึงจะสูงขนาดน ั้นไปทำไม เพื่อนคนนี้เคยบอกเราด้วยหลักกา รทางสถิติแบบมั่วๆของมันเองว่า มันเป็นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 95 คือมีคนแค่ประมาณ 5% เท่านั้นแหล่ะที่สูงกว่ามัน ส่วนเราเป็นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 5 คือมีคนแค่ 5% ในโลกนี้ที่เตี้ยกว่าเรา แอบแค้นโดยจิตใต้สำนึก เป็นชั้คกี้ถือมีดรอเสียบมันอยู ่ มันบอกเราด้วยว่า มันสูงกว่าเราสองขวดน้ำ มันน่าภาคภูมิใจที่ตรงไหนวะ
มีครั้งหนึ่งตอนก่อนที่เราย้ายเ ข้ามาอยู่คอนโด เราให้ช่างมาติดตาแมวที่ประตูให ้ (ตาแมว ก็คือ เลนส์เล็กๆที่เอามาเจาะติดกลางป ระตู เพื่อให้เรามองเห็นคนที่ยืนอยู่ ข้างนอก แต่เค้ามองไม่เห็นเรา) แล้วก็ให้เค้าติดเครื่องทำน้ำอุ ่นให้ด้วย ช่างและเราไม่เคยเห็นหน้ากัน ตอนนั้นห้องเป็นห้องเปล่า ยังไม่มีอะไร เราบอกนิติบุคคลที่ดูแลอาคารเอา ไว้ ให้ช่างเข้ามาติดตอนที่เราไม่อย ู่ แต่เราเขียนโน้ตทิ้งไว้ที่ประตู ว่า ให้ติดที่ความสูง 145 เซนติเมตร แล้วเราก็ลอยชายไปทำงานตามปกติ อย่างไม่คิดอะไรมาก
ตอนกลางวัน มือถือก็ดัง “ผมเป็นช่างอาคารนะครับ จะเข้ามาติดตาแมวให้น่ะครับ”
เราก็ยินดี “อ๋อ...ตามสบายเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ” ว่าแต่มันโทร.มาทำไมวะ กุญแจห้องก็อยู่ที่นิติฯนี่นา ก็น่าจะเข้าห้องได้
ช่างบอกว่า “คือผมเห็นเขียนไว้ว่าให้ติดสูง จากพื้น 145 เซน มันจะดีเหรอครับ”
เราก็ไม่อยากเท้าความอะไรมากก็เ ลยบอกไปว่า “ดีค่ะ ติดไปตามนั้นเลยค่ะ”
ช่างยังไม่มั่นใจ “เวลาดู พี่จะต้องก้มนะ ติดเท่านี้มันจะไม่เตี้ยไปเหรอค รับ” โถ...พ่อคู้ณ ห่วงใยกัน...มึงมาเหยียบกูเลยดี กว่า
มันไม่ใช่ความผิดเค้านี่เนาะ จะไปโทษใครได้นอกจากตัวเอง “เอ่อ...คือแบบว่า เราเตี้ยอ่ะค่ะ สูงแค่ร้อยห้าสิบสองเอง”
ช่างบอกว่า “ผมติดให้ที่ 150 แล้วกันนะครับ เดี๋ยวพี่จะดูลำบาก” เปิดเผยขนาดนี้แล้วเค้ายังไม่อย ากจะเชื่อกูเลย
“เอ่อ...งั้นก็ได้ค่ะ” กูยอมเงยดูนิดหน่อยก็ได้วะ ขี้เกียจจะอธิบาย
กลับไปเย็นนั้น ถึงได้เจอหน้าช่าง แม่งเอ๊ย...ให้ตายเถอะโรบิ้น อีช่างสูงมากกว่า 180 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลแน่นอน คิดในใจ เดชะบุญมากที่กูคาดการณ์ปัญหาล่ วงหน้าแล้วเขียนโน้ตไว้ ไม่งั้นแม่คงได้เอาเก้าอี้มาปีน ดูตาแมวแน่ๆ เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะพาเราไปเช็คง านนะ เค้าก็พาไปดูตาแมวแล้วถามเราว่า “มองได้มั้ยครับ” มันก็ต้องได้อยู่แร้วววว
แล้วเค้าก็ทำร้ายเราด้วยคำถามสา ยฟ้าฟาด “พี่ลองดูเครื่องทำน้ำอุ่นหน่อย ครับ ไม่รู้ว่าเปิดถึงมั้ย” เราเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเศร้า สลด เดินไปดูความสูงของการติดตั้ง โอเคว่าเปิดถึง...แบบว่าสุดเอื้ อมพอดีเลย รู้สึกว่าตัวเองเป็นตุ๊กตากระต่ ายที่โดนมิซาเอะแม่ชินจังซ้อม ยังจำคำพูดเค้าได้อยู่เลย ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เล่าให้น้องชายฟัง จำได้ว่ามันตลกมาก
ที่คอนโดมีสระว่ายน้ำ ในสระผู้ใหญ่ตื้นสุดที่ 135 ซม. เราเอาหัวโผล่พ้นคางพอดี ลึกสุดที่ 166 ซม. เราว่ายน้ำไม่เป็น น้องชายล้อว่า "ตื้นขนาดนี้ มึงยังจมได้อยู่เลยว่ะ" แล้วก็หัวเราะร่า แหม...ตลกจริงๆเลย
เรามีเพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานคนห นึ่ง มันโดนล้อเป็นประจำโทษฐานที่หัว ล้านผิดปกติ มันมักทำตาค้อนแล้วย้อนว่า "คนหัวล้านก็มีหัวใจนะฮะ" วันนี้อยากยืมคำมันแล้วตะโกนใส่ หน้าผา ให้เสียงสะท้อนก้องไปทั่วๆว่า “ถึงกูจะเตี้ย...แต่กูก็มีหัวใจ นะ...นะ...นะ...นะ”
แต่ลืมไปว่า ทุกครั้งที่มันตัดพ้อ ก็ไม่เห็นมีใครสนใจหัวใจมันซักค น....
รอวันฉันเอาคืน...
It’s me…
4 พฤศจิกายน 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น