หนูก็เป็นคนชนชั้นธรรมดาของสังคมนี่แหล่ะค่ะ เรียนจบมาก็ต๊อกต๋อย ทำงานจ่ายภาษีให้ตำบลตามหน้าที่นะคะ ก็ไม่ได้เคยพูดว่ารักตำบลออกนอกหน้าอะไรหรอกค่ะ มีหน้าที่อะไร ก็หลับหูหลับตาทำไป ไม่เคยอยากยุ่งเกี่ยวกับอบต.อะไรเลย
ตอนเลือกตั้งนะคะ หนูก็ไม่ได้ไปเลือกหรอก เพราะคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็ต้องเลือกคนดีมาเป็นอบต.อยู่แล้ว และทุกๆคนที่ลงสมัครก็ใจดี๊ ใจดี นะคะ เอาเงินมาแจกให้ฟรีๆด้วย แถวบ้านหนูนี่ หน้าบานเป็นจานดาวเทียมกันทั้งนั้น คนใหญ่ๆโตๆ แย่งกันแจกเงินเรา เค้าจะเมตตาเราไปถึงไหนกัน
ได้ข่าวว่า ตำรวจเค้าจะจับนะคะ เค้าบอกว่าการแจกตังค์มันผิดกฎหมาย หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าจะจับไปทำไม จับคนที่จิตอาสา อยากทำงานให้ประชาชนตัวเล็กๆอย่างเรา แล้วยังให้ตังค์เราแถมอีก เค้าดีกับเราขนาดนี้ จะไปจับเค้าทำไมล่ะคะ แต่ตอนหลังหนูก็เข้าใจค่ะ ว่าพี่ๆตำรวจ เค้าก็ใจดีเหมือนกัน ก็พูดไปงั้นๆแหล่ะค่ะ รู้ทั้งรู้ แต่ก็ไม่เคยจับใครจริงจังหรอกค่ะ ปากร้ายแต่ใจดีค่ะ
เนี่ย...พอจบการเลือกตั้งครั้งล่าสุด หนูก็มองโลกในแง่ดีนะคะ ได้พวกเฮียๆเจ๊ๆมาบริหารตำบลของเรา เจ๊บอกทุกคนว่า “ไม่คิดแก้ไขหรอกค่ะ...แต่คิดแก้แค้น” เอ๊ย...ขอโทษค่ะ ทำไมพิมพ์ผิดนะ “ไม่คิดแก้แค้น แต่จะแก้ไข” เห็นมั้ยคะ คนเราต้องคิดได้อย่างเจ๊แหล่ะ ตำบลเราจะได้ไปได้ไกลๆ
หนูเชียร์เจ๊สุดใจขาดดิ้นเลยค่ะ แหม...ก็เจ๊น่ะ จบเมืองนอกเมืองนา ภาษาปะกิด พูดคล่องปรื๋อ ได้ตามอักขระ หนูรู้ว่าเวลาที่ให้สัมภาษณ์สื่อแล้วเจ๊พูดช้าๆ ก็เพราะต้องการให้คนการศึกษาน้อยอย่างพวกหนูเข้าใจง่ายๆ บางทีที่พูดแล้วไม่ออกเสียงอ๊งเสียงเอสให้ดีเหมือนเจ้าของภาษา ก็แค่เพราะว่ากลัวพวกหนูตามไม่ทัน มันเป็นเคล็ดลับทั้งนั้น เจ๊เนี่ย...สุดๆในดวงใจหนูเลยล่ะค่ะ
การแต่งตั้งผู้บริหารในอบต.ก็เป็นการมองการณ์ไกลใช่มั้ยล่ะคะ เจ๊ไม่เอาคนเก่งๆมาบริหาร คงเพราะเห็นว่าคนเก่งของ ‘ทุกภาคส่วน’ มันมีเยอะแล้ว เราต้องมองจากข้างนอกบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ผู้เชี่ยวชาญมาทำ เหมือนผงเข้าตาแหล่ะค่ะ ต้องให้คนอื่นแคะให้ เอาคนไม่รู้เรื่องมาคุมนี่แหล่ะทีเด็ดเลย จะได้มองเห็นอะไรได้ง่ายๆ อะไรๆก็ดูน่าสนใจไปหมด simply the best ใช่มั้ยคะเจ๊...
ตำบลเราดีสุดๆ มีภาษาเป็นของตัวเอง เจ๊คงอยากสั่งสอนเด็กรุ่นใหม่ใช่มั้ยคะ ให้มันใช้ภาษาให้ถูกต้อง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นล่ะสิคะ แสดงให้พวกมันดูเองซะเลย ว่าตัวอย่างที่ผิดมันเป็นยังไง นี่แน...แกล้งพูดผิดๆ ให้พวกวัยรุ่นได้ตระหนักใช่มั้ยคะ พฤศจิกาคมบ้าง หญ้าแฝก หญ้าแพรก แล้วยังอ่านตัวเลขงบประมาณ เป็นห้าหมื่น สามแสน เก้าร้อย สิบแปดล้านบาท (53,918 ล้านบาท) พูดผิดและไม่ต้องแก้ คนฟังจะได้สำนึกได้ถึงลิ้นปี่กันไปเลย...
ทุกอย่างที่เจ๊ใส่กุศโลบายเข้าไปนี่ ถูกต้องหมดเลยนะคะเจ๊ ผู้คนออกมาดิ้นพล่านกันใหญ่ ว่านายกอบต.ของเราทำไมอ่านผิด อ่านพลาด ต้องอย่างงั้น อย่างงี้ บรรลุเป้าหมายเลยใช่มั้ยล่ะคะ ทุกคนตระหนักแล้ว สมใจเจ๊ ต่อไปตำบลของเรา ก็จะระมัดระวังมากขึ้น เวลาจะใช้ภาษา จะได้ใช้ให้ถูกต้อง ตาม Phonetic เนาะเจ๊เนาะ...
เมื่อวันก่อน หนูเห็นข่าวว่า ระหว่างที่เจ๊ไปช่วยน้ำท่วมหมู่บ้านหนึ่ง อยู่ดีๆ คณะอบต.ก็แอบผ่านกฎอะไรซักอย่าง ที่จะช่วยละเว้นผู้กระทำผิดในอดีต ที่อายุ 60 ขึ้นไป โทษไม่เกิน 3 ปี ยกโทษให้หมดเลย ฉ้อฉล โกงบ้านโกงเมืองก็ไม่เกี่ยว ใครๆพากันว่าเจ๊ และคณะหมดเลย เค้าจะว่าเจ๊แอ๊บ...แอบโกงช่วยพี่ชาย แล้วทำเป็นพูดว่าไม่รู้เรื่อง หนูว่ามันก็แปลกนะคะ จะมาว่าเจ๊ทำไม...คนเราเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มันผิดตรงไหน
แล้วก็ในเมื่อเจ๊บอกแล้วว่าไม่รู้ ไม่รู้ ก็น่าจะเชื่อกันบ้าง เอาแต่จะมาคอยจับผิดกันอยู่ได้ แต่ไหนแต่ไรมา เวลาสื่อฯถาม เจ๊ก็ยืนยันอยู่แล้วว่าไม่ช่วยหรอก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตอนนี้เจ๊ก็ให้รองนายกอบต.คนที่ยุติธรรมที่สุดในอบต.ไปดูแลอยู่แล้ว ทำไมพวกนั้นก็มาคาดคั้นเอากับเจ๊อยู่ได้
เจ๊ก็บอกไปแล้วว่าน้ำท่วม ไปช่วยเค้าอยู่เนี่ย แล้วเรดาร์ฮอมันเสีย จะกลับมายังไง จะให้เอามดดมกลิ่นนำทางกลับมาเหรอ เจ๊ไม่ได้มีความจำเป็นต้องโกหกอะไรเลย ก็มี ‘ทุกภาคส่วน’ คอยดูแลอยู่แล้ว ทั้ง ‘คนที่รู้เรื่อง’ ที่คอยทำงาน กับ ‘คนที่ไม่รู้เรื่อง’ ที่เป็นคนคุม ที่เจ๊ระดมสรรพกำลังจัดเต็มให้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ไม่เห็นจำเป็นเลยเนอะ ที่นายกอบต.จะต้องไปรู้ทุกเรื่อง เฮ้อ...หนูล่ะเบื่อแทนเจ๊ไปเลย...
เมื่อวานนี้ก็อยากจะขอบคุณเจ๊เหมือนกันนะคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าตั้งแต่เจ๊เป็นนายกอบต.เนี่ย หวยออกเมื่อไหร่ ชาวบ้านมีเฮตลอด ก็เนอะ...ของขวัญเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ลูกตำบลจนๆอย่างเรารู้สึกดี นี่เป็นรอบที่สามแล้วนะคะ ที่หวยบังเอิ๊ญบังเอิญออกเลขทะเบียนรถโดยสารของเจ๊ แต่หนูเข้าใจค่ะว่า เจ๊พูดไม่ได้หรอกว่าจงใจให้เป็นอย่างที่มันเป็น ถ้าจะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แล้วลูกตำบลได้ประโยชน์โภชผลเล็กๆน้อยๆอ่ะ ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเนอะ
แล้วก็อีกอย่างนะ หนูน่ะ...คิดว่าข่าวเมื่อเมื่อวานกับวันก่อนมันดังเปรี้ยงปร้างแล้วนะ แต่วันนี้ดังกว่าเมื่อวานอีก แหม...หนูนี่นับถือเจ๊จากก้นบึ้งของดวงใจไปเลย เมื่อเช้าอ่านข่าว เค้าบอกว่า ลูกพรรคเจ๊เตรียมยื่นญัตติย้ายหมู่บ้านเมืองหลวง เพราะว่าหมู่บ้านปัจจุบันนี่ มันกำลังจะหมดความหมายแล้ว
กุศโลบายแบบนี้ เจ๊คงเอาเยี่ยงคนโบร่ำโบราณที่เค้าเจริญกันมานักต่อนักแล้วล่ะสิ ประมาณ ‘ทุบหม้อข้าว แล้วเข้าตีจันทบุรี’ ความเจริญรออยู่ในภายภาคหน้าอย่างเห็นๆ แต่คนอื่นมองไม่เห็น เมื่อก่อนพี่ชายเจ๊ก็เคยเสนอแล้ว ก็มันไม่สำเร็จ ก็แค่ต้องเอามาปัดฝุ่นใหม่นิดหน่อยเองใช่มั้ยคะ
เจ๊ก็คงต้องใช้ trick นิดหน่อย ก็ทำให้น้ำท่วมหมู่บ้านเก่าซะก่อน นี่ก็ความหวังดีล้วนๆ คนส่วนใหญ่น่ะนะ...พอมีปัญหาก็ต้องการหนีปัญหากันทั้งนั้นแหล่ะ จะฟื้นฟูหมู่บ้านเก่าที่เริ่มจะผุพังซะแล้ว อนาคตก็ไม่ค่อยสดใสสวยงามหรอก เราสร้างอนาคตใหม่กันดีกว่าใช่มั้ยคะเจ๊ ไปทำไร่เลื่อนลอยกันดีกว่า...
ไอ้ที่เคยปฏิเสธกันว่าไม่ไป ไม่ไป ก็รักหมู่บ้านนี้ง่ะ ก็คงจะยากหน่อย เพราะตอนนี้ธรรมชาติชัดๆเลย ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า เราสมควรย้าย เหตุผลก็มีอยู่โทนโท่ นี่มันหลักอิทัปปัจจยตาในทางพุทธศาสนาเป๊ะ เหตุ-ผล มันมีให้เห็นอยู่ จะดื้อด้านกันไปทำม้าย อยู่ไปก็ไลฟ์บอย ย้ายดีกว่า ก็เราสูบทรัพยากรมากินมาใช้ จนจะหมดหมู่บ้านแล้ว พอมันหมดเราก็ต้องไปหาที่ใหม่เป็นธรรมดา ถูกมั้ยคะ...
เราต้องสอนให้ลูกหลานชาญฉลาด รู้จักหาให้พอ ใช้ให้หมด แล้วก็หาใหม่ให้เป็น ไอ้ที่จะมาคอยฟื้นฟู ดูแลเอื้อประโยชน์กันและกันประเภท ‘ดินดีเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินดีเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี’ น่ะมันหมดสมัยแล้ว เราต้องรู้จักตักตวงเข้าไว้ มันถึงจะถูกต้อง เจ๊เป็นนายกอบต.ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนในตำบลจริงๆค่ะ หนูยกนิ้วให้ 20 นิ้วเลย (พอดีว่ามีแค่นี้)...
คนเรานะคะ อยู่ในหมู่บ้านก็ต้องทำแบบนี้แหล่ะ ตำบลมันถึงจะเป็นสุข จังหวัดถึงจะดี ประเทศเราก็เจริญ โลกเราก็ได้ถูกใช้อย่างคุ้มค่า พอทุกอย่างถูกใช้หมด เราก็ย้ายไปโลกใหม่ ไม่เห็นจะต้องมาทำตื่นตูมอะไรเลย กับโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หมีขั้วโลกไม่มีที่อยู่ จะตายลอยตามน้ำมา โลกต่งโลกแตกอะไรกั๊น...ก็บอกแล้วไงเนอะว่า Simply the best....
จากหนูเองค่ะ
คนที่มองโลกแง่ดีเสมอ...
17 พฤศจิกาคม 2554...???...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น